ห้องประชุมเสียงรั่ว: ปัญหาใหญ่ที่แก้ไขได้ด้วยการออกแบบอย่างมืออาชีพ

เคยประสบปัญหาเหล่านี้ในออฟฟิศหรือไม่?
ลงทุนออกแบบห้องประชุมไว้อย่างสวยงาม แต่เมื่อมีการประชุมสำคัญ เสียงสนทนากลับเล็ดลอดออกไปสู่ภายนอกอย่างชัดเจน พนักงานที่เดินผ่านไปมาสามารถได้ยินบทสนทนาที่เป็นความลับได้ หรือในสถานการณ์ที่ร้ายแรงที่สุด คือการเจรจาต่อรองราคาหรือข้อมูลสำคัญทางธุรกิจ แต่ทีมคู่แข่งที่รออยู่ด้านนอกกลับได้ยินรายละเอียดทั้งหมด
ปัญหา “เสียงรั่ว” ไม่ใช่แค่เรื่องน่ารำคาญ แต่ยังส่งผลกระทบโดยตรงต่อความปลอดภัยของข้อมูลและความเป็นมืออาชีพขององค์กร แล้วสาเหตุหลักมาจากอะไร?

2 จุดอ่อนสำคัญที่ทำให้เสียงรั่วจากห้องประชุม
ส่วนใหญ่มักเกิดจากความผิดพลาดในการเลือกใช้วัสดุและอุปกรณ์สำหรับ “ประตู” ซึ่งเป็นจุดที่อ่อนแอที่สุดในการป้องกันเสียง
1. ประตูบานสวิงและบานเลื่อนที่ไม่มีซีลกันเสียง: ประตูออฟฟิศยอดนิยมอย่าง ประตูบานสวิง (Swing Door) โดยเฉพาะแบบกระจกเปลือย มักจำเป็นต้องเว้นช่องว่างรอบบานประตูกับวงกบและพื้นไว้ประมาณ 5-10 มม. เพื่อป้องกันการกระแทก ช่องว่างเหล่านี้เองที่เป็นช่องทางให้เสียงเดินทางผ่านได้อย่างสะดวก เช่นเดียวกับ ประตูบานเลื่อน (Sliding Door) ทั่วไปที่มักมีช่องว่างตลอดแนวรางเลื่อน
2. วัสดุของบานประตู: ประตูบานกลวง (Hollow Core Door) ราคาประหยัด ไม่สามารถป้องกันเสียงได้ดีพอ เสียงจึงสามารถทะลุผ่านตัวบานประตูออกไปได้โดยตรง

แนวทางการแก้ไขและป้องกันปัญหาจาก YL Studio
หากองค์กรของคุณให้ความสำคัญกับความลับและการสื่อสารที่มีประสิทธิภาพ YL Studio ขอแนะนำแนวทางการออกแบบและเลือกใช้ประตูห้องประชุมเพื่อแก้ปัญหาเสียงรั่วอย่างยั่งยืน
1. เลือกใช้ประตูบานทึบตัน (Solid Core Door): แนะนำให้ใช้ประตูที่มีโครงสร้างภายในทึบตัน เช่น ประตูไม้จริง (Solid Wood) หรือประตูที่มีการอัดฉนวนกันเสียงคุณภาพสูง (Acoustic Insulation) เช่น ใยหิน (Rockwool) ไว้ภายในเต็มบาน ประตูประเภทนี้จะมีค่า STC (Sound Transmission Class) หรือค่าการกันเสียงที่สูงกว่าประตูทั่วไปอย่างชัดเจน
2. ติดตั้งซีลยางกันเสียงรอบบาน (Acoustic Seals): การป้องกันเสียงที่ดีที่สุดคือการ “ปิดช่องว่าง” ทั้งหมด
o ซีลยางรอบวงกบ: ติดตั้งซีลยางคุณภาพดีรอบวงกบประตูทั้ง 3 ด้าน
o ซีลกันเสียงที่ธรณีประตู (Door Sill Seal): กรณีพื้นมีธรณีประตู สามารถติดตั้งซีลยางใต้บานเพื่อกดทับลงบนธรณี ป้องกันเสียงลอดใต้บาน
o อุปกรณ์ซีลใต้อัตโนมัติ (Automatic Drop Seal): สำหรับพื้นที่ไม่ต้องการธรณีประตู สามารถติดตั้งอุปกรณ์นี้ฝังไว้ใต้บานประตู เมื่อปิดประตู กลไกจะดันซีลยางลงมาปิดช่องว่างระหว่างประตูกับพื้นโดยอัตโนมัติ (ข้อควรระวัง: พื้นบริเวณนั้นต้องเรียบสม่ำเสมอ เพื่อให้ซีลแนบสนิทได้เต็มประสิทธิภาพ)

คิดให้รอบด้านกว่าแค่ประตู
นอกจากการเลือกใช้ประตูที่เหมาะสมแล้ว การออกแบบภาพรวมของห้องประชุมก็มีความสำคัญไม่แพ้กัน เช่น การก่อผนังทึบให้สูงชนท้องพื้นของชั้นบน การเลือกใช้กระจก Insulated 2 ชั้น หรือการออกแบบฝ้าเพดานแบบอะคูสติก
การใส่ใจในรายละเอียดเหล่านี้ จะช่วยให้ห้องประชุมของคุณเป็นพื้นที่ปลอดภัยสำหรับการพูดคุยเรื่องสำคัญได้อย่างแท้จริง



Leave a comment